เกาหลีใต้เพิ่มความเข้มงวดและอาจแบนบิทคอยน์

เกาหลีใต้เพิ่มความเข้มงวดและอาจแบนบิทคอยน์

Be first to like this.

This post is also available in: Español 日本語 한국어 Português Українська 繁體中文

รัฐบาลเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องหลังจากบิทคอยน์บูมขึ้นในเกาหลีใต้ ทางรัฐได้เพิ่มมาตรการความเข้มงวดในวันนี้และมีการพูดถึงการแบนที่อาจจะเกิดขึ้นในเกาหลีใต้

หลังจากที่มีข่าวเพิ่มความเข้มงวดในเกาหลีใต้ทำให้ราคาบิทคอยน์ลดลงถึง 10% และขึ้นลงตลอดทั้งวัน และราคาต่อเหรียญไปหยุดที่ 13,728.86 ดอลล่าร์สหรัฐหลังจากราคาขึ้นไปอยู่ที่ 15,470.44 ดอลล่าร์สหรัฐในวันนี้

รัฐบาลเกาหลีประกาศว่าการดำเนินการทางการเงินที่ใช้เงินเข้ารหัสในเกาหลีจะต้องใช้ชื่อจริงในการดำเนินการ นอกจากนั้นรัฐบาลยังห้ามไม่ให้ธนาคารเปิดบัญชีเสมือนให้กับลูกค้าโดยอ้างว่าขัดกับมาตรการ”รู้จักลูกค้าของคุณ”ของรัฐ แม้ว่าข้อดีหลักของการใช้บิทคอยน์ก็คือการไม่เปิดเผยตัวตน ซึ่งทำให้ราคาของบิทคอยน์สูงมากในปัจจุบัน แต่การบังคับใช้มาตรการดังกล่าวนั้นมีให้เห็นในประเทศสหรัฐเช่นกัน

บิทคอยน์นั้นได้รับความนิยมสูงมากในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งนับเป็นราว 20% ของบิทคอยน์ทั้งหมดในโลก และทำให้ค่าใช้จ่ายสำหรับการใช้บิทคอยน์และสกุลเงินเข้ารหัสอื่นๆข้ามประเทศนั้นสูงถึง 30% แต่แม้ว่าบิทคอยน์จะได้รับความนิยมสูงมาก สกุลเงินออนไลน์นี้ก็ยังพบปัญหาอยู่ไม่น้อย อย่างเช่นบริษัทแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ชื่อ Youbit ได้ประกาศปิดตัวลงหลังจากถูกเจาะระบบและเสียสินทรัพย์ไปถึง 17%

รัฐบาลเกาหลีใต้นั้นไม่ใช่รัฐบาลเดียวในเอเชียที่มีความคลางแคลงใจต่อบิทคอยน์ เช่นรัฐบาลสิงคโปร์นั้นเตือนประชาชนว่าพวกเขาอาจจะสูญเสียทุกอย่างจากบิทคอยน์ได้ Stephen Innes หัวหน้าการแลกเปลี่ยนของ Asia Pacific บอกกับ Bloomberg ว่า:

หน่วยงานที่กำกับดูแลนั้นมีความกังวลเป็นอย่างมากกับเรื่องนี้ โดยหน่วยงานทั่วโลกเริ่มพูดถึงประเด็นดังกล่าวหลังจากที่พวกเขาเริ่มเข้าใจถึงข้อเสียของสกุลเงินเข้ารหัสต่อระบบเศรษฐกิจ

แม้ว่าจะมีหลายคนที่กลัวว่าประเทศเกาหลีใต้จะแบนการใช้บิทคอยน์ แต่ในปัจจุบันยังมีเพียงแค่ประเทศจีนเท่านั้นที่มีการแบนการใช้สกุลเงินเข้ารหัสอย่างถาวร แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนนั้นมีการเซ็นเซอร์เนื้อหาออนไลน์ทั่วประเทศ ทำให้การแบนดังกล่าวเป็นไปได้ง่ายกว่าปกติ

 

ภาพของ baloon111 จาก iStock

Quantcast